น้ำมันเกียร์เบอร์ 140 หรือตัวเลขของน้ำมันเกียร์หมายถึงอะไร? |
|
อ้างอิง
อ่าน 342 ครั้ง / ตอบ 0 ครั้ง
|
|
สำหรับผู้ที่ใช้รถ ย่อมรู้ดีว่าของเหลวต่าง ๆ ในรถมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อช่วยหล่อลื่นให้ระบบเครื่องยนต์ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ราบรื่น ไม่สะดุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำมันเกียร์ ที่เป็นน้ำมันหล่อลื่นในระบบเกียร์ ไม่ให้เกิดการสะดุดเวลาเปลี่ยนเกียร์ แต่คุณรู้หรือไม่ว่าน้ำมันเกียร์นั้นมีหลายรุ่น หลายเบอร์ให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันเกียร์เบอร์ 140 จนถึง 70 วันนี้เราชวนคุณมาทำความรู้จักน้ำมันเกียร์ให้มากขึ้น เพื่อต่อไปคุณจะได้เลือกใช้ให้เหมาะกับประเภทรถของคุณมากที่สุด ลองไปดูกัน

มารู้จักน้ำมันเกียร์เพิ่มกันอีกสักนิด
น้ำมันเกียร์ เป็นน้ำมันหล่อลื่นที่ช่วยให้ระบบเกียร์ทำงานมีประสิทธิภาพ ไม่สะดุดเวลาเปลี่ยนเกียร์ ช่วยชะล้างเศษโลหะจากหน้าฟันเกียร์ ช่วยป้องกันสนิมกัดกร่อน ลดการสึกหรอของระบบเกียร์ ไม่ให้พังเร็ว
น้ำมันเกียร์เบอร์ 140 หรือตัวเลขของน้ำมันเกียร์หมายถึงอะไร
หลายคนอาจเคยเห็นบนกระป่องน้ำมันเกียร์มีตัวเลขและตัวอักษรต่าง ๆ กำกับไว้ ลองมาทำความเข้าใจกันสักนิดว่าหมายถึงอะไร
-
ตัวเลขของน้ำมันเกียร์ หมายถึง ระดับความหนืดของน้ำมันเกียร์ที่อุณหภูมิที่กำหนด 100 °C หรือ 212 ° F ถ้ายิ่งตัวเลขมาก แปลว่ายิ่งหนืดมาก เช่น น้ำมันเกียร์เบอร์ 140 แปลว่ามีระดับความหนืดน้ำมันเกียร์สูง หนืดมาก เป็นต้น โดยมีมาตรฐานของสมาคมวิศวกรรมยานยนต์ของสหรัฐอเมริกา (Society of Automotive Engineer: SAE) เป็นตัวกำหนดและแบ่งเกรดระดับน้ำมันเกียร์ เป็นโมโนเกรด และมัลติเกรด
-
น้ำมันเกียร์ โมโนเกรด จะกำกับด้วยเลขจำนวนเดียว เช่น น้ำมันเกียร์เบอร์ SAE 70, SAE 90, SAE 140, SAE 250 เป็นต้น จะเป็นน้ำมันเกียร์ที่เหมาะสำหรับการใช้งานในอุณหภูมิสูง แต่ถ้ามีตัวอักษร “W” หรือ Winter กำกับด้วย เช่น SAE 75W, SAE 80W จะเป็นการระบุการใช้งานที่อุณหภูมิ -18 °C หรือ 0 °F น้ำมันเกียร์นี้จะใช้งานได้ดีในอุณหภูมิต่ำ
-
น้ำมันเกียร์ มัลติเกรด จะมีตัวเลขกำหนดสองชุดว่าเหมาะสมกับการใช้งานทั้งในอุณหภูมิสูงและต่ำ เช่น น้ำมันเกียร์เบอร์ SAE 85W-140 หมายความว่า มีความหนืดที่อุณหภูมิต่ำเหมือนกับ SAE 85W แต่มีความหนืดที่อุณหภูมิสูงแบบเดียวกับ SAE140 นั่นเอง
มาดูกันว่าความหนืดของน้ำมันเกียร์สำคัญอย่างไร
เมื่อพอจะอ่านตัวเลขของน้ำมันเกียร์ได้แล้ว ลองมาดูกันว่าระดับความหนืดของน้ำมันเกียร์สำคัญกับประเภทการใช้งานของรถอย่างไร เพราะไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ รถเพื่อการเกษตร รถจักรกลหนัก รถบรรทุก ย่อมใช้งานระบบเกียร์แตกต่างมากน้อยกันออกไป ดังนั้น การรู้ว่าระดับน้ำมันเกียร์ที่เหมาะสมกับรถของเรา จึงเป็นสิ่งสำคัญนั่นเอง
-
ความหนืดของน้ำมันเกียร์ จะขึ้นอยู่กับประเภทของเกียร์ ความเร็วรอบของรถที่ใช้ อุณหภูมิการใช้ โดยมีทั้งความหนืดน้ำมันเกียร์ต่ำ และความหนืดน้ำมันเกียร์สูง
-
ความหนืดของน้ำมันเกียร์สูง หรือหนืดมาก มีฟิล์มน้ำมันหนา เหมาะสำหรับรถขับเคลื่อนความเร็วต่ำ มีระบบเกียร์ต้องรับแรงกดดันสูง ฟันเฟืองใหญ่ ซึ่งช่วยให้ระบบเกียร์ทนต่อการสึกหรอสูง
-
ความหนืดของน้ำมันเกียร์ต่ำ หรือหนืดน้อย มีฟิล์มน้ำมันบางและแรงเสียดทานต่ำ มีอุณหภูมิต่ำ ระบายความร้อนได้ดี เหมาะสำหรับรถที่ขับเคลื่อนด้วยความเร็วสูง ระบบเกียร์รับแรงกดดันน้อย ฟันเฟืองเล็ก
ที่สำคัญคือควรเลือกใช้น้ำมันเกียร์ให้ถูกต้องเหมาะสมกับการใช้งาน เพื่อช่วยให้ระบบระบบเกียร์ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังถนอมดูแลเกียร์รถยนต์ของคุณให้ไม่พังไว ใช้งานกันได้แบบนาน ๆ
|
|
|